พรีเมียร์ลีกเห็นการกลับมาอย่างน่าทึ่งเมื่อวิลล่าไล่จี้อาร์เซนอล: การปะทะกันในรอบต่อไปอาจทำให้ซิตี้แซงหน้าได้หากเชลซีไม่สามารถชนะได้
การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในรอบนี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด เมื่อการแข่งขันเยือนของแอสตัน วิลล่ากับเชลซีไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการลุ้นอันดับสี่เท่านั้น แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์อีกด้วย เชลซีขึ้นนำในบ้านจากประตูของเปโดร แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป 2-1 ต่อทีมวิลล่าที่กำลังฟอร์มดีความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้เชลซีหลุดจากอันดับสี่ ขณะที่แอสตัน วิลล่า ยังคงไล่ตามจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอลต่อไป ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการลุ้นแชมป์ของพวกเขาอย่างมาก

การแข่งขันเริ่มขึ้นในเวลา 01:30 น. ตามเวลาปักกิ่ง วันที่ 28 ธันวาคม เชลซีครองเกมในครึ่งแรก โดยขึ้นนำจากการจบสกอร์อย่างเฉียบขาดของเปโดรในจังหวะตัวต่อตัว ดูเหมือนว่าเกมจะอยู่ในมือของพวกเขาอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์พลิกผันอย่างน่าทึ่งในครึ่งหลัง เมื่ออูไน เอเมรี ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า ตัดสินใจส่งตัวโอลลี่ วัตต์คินส์ กองหน้าตัวสำรองลงสนาม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนตัวที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมในนาทีที่ 59 วัตคินส์ได้เพิ่มความเร็วให้กับเกมรุกทันทีที่เข้าสู่สนาม เพียงสี่นาทีต่อมา เขาก็ฉวยโอกาสทำประตูตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อได้รับบอลทะลุช่องอย่างแม่นยำจากเพื่อนร่วมทีม การยิงครั้งแรกของเขาถูกผู้รักษาประตูปัดออกมา แต่บอลกระเด้งเข้าเสาอย่างชาญฉลาดและเข้าประตูไป ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1

เมื่อการแข่งขันเข้าสู่ช่วงท้าย วิลล่าสามารถเจาะแนวรับของเชลซีได้อีกครั้งในนาทีที่ 84 จากลูกเตะมุมที่ส่งเข้ามาในกรอบเขตโทษ วัตคินส์กระโดดขึ้นโหม่งอย่างสวยงามส่งบอลเข้าตาข่าย ทำให้สกอร์เป็น 2-1 การโหม่งอันงดงามนี้เป็นการปิดฉากการกลับมาของวิลล่า ทำให้อูไน เอเมรี รีบวิ่งออกจากข้างสนามเพื่อฉลองอย่างสุดเหวี่ยงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่สำคัญของเอเมรีพิสูจน์ให้เห็นถึงความชาญฉลาดอย่างแท้จริง หากปราศจากผลงานอันโดดเด่นของวัตคินส์ การกลับมาของวิลล่าคงเป็นไปไม่ได้เลย ที่น่าสังเกตคือ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้วิลล่าไม่แพ้ใครติดต่อกัน 11 นัดในทุกรายการ รวมถึงชัยชนะ 8 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อนของสโมสร
ในอีกด้านหนึ่งของโปรแกรมการแข่งขัน อาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างคว้าชัยชนะ 2-1 เหนือคู่แข่งของตน ตารางคะแนนยังคงมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยอาร์เซนอลยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ โดยมีคะแนนนำซิตี้อยู่สองแต้ม ขณะที่แอสตัน วิลล่า อยู่อันดับสาม ตามหลังอยู่สามแต้ม ไฟแห่งความสนใจจึงหันไปที่การเผชิญหน้ากันโดยตรงระหว่างอาร์เซนอลและวิลล่า ซึ่งจะเป็นเกมสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของการลุ้นแชมป์ในกลุ่มสามทีมนี้
อาร์เซนอลกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมหาศาล ฟอร์มการเล่นล่าสุดของทีมไม่คงเส้นคงวา และผลการแข่งขันที่พ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลล่า 1-2 ในเกมเยือนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้สร้างเงามืดทางจิตใจให้กับเกมเหย้าที่กำลังจะมาถึง วิลล่ากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจและมีโอกาสดีที่จะเก็บแต้มได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มแม้จะเล่นเป็นทีมเยือน หากอาร์เซนอลไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้อาจฉวยโอกาสแซงหน้าและยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้ทุกเมื่อ
เมื่อต้นฤดูกาลนี้ อาร์เซนอลถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ อย่างไรก็ตาม เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และแอสตัน วิลล่าไล่ตามมาติดๆ โอกาสคว้าแชมป์ของทีมปืนใหญ่ก็ดูไม่แน่นอนมากขึ้น หากพวกเขาไม่สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ทีมอาจประสบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจและความมั่นใจ และอาจส่งผลต่อทิศทางของทั้งฤดูกาลอย่างไรก็ตาม ชัยชนะเหนือวิลล่าในการแข่งขันที่สำคัญนี้จะไม่เพียงแต่ทำให้อาร์เซนอลครองตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างมั่นคงเท่านั้น แต่ยังจะจุดประกายจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง ทีมของมิเกล อาร์เตต้าจะสามารถต่อยอดจากโมเมนตัมนี้เพื่อเดินหน้าสู่การคว้าชัยชนะสูงสุดได้ การแข่งขันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลอย่างไม่ต้องสงสัย โดยทุกสายตาจับจ้องไปที่การปะทะกันของทีมชั้นนำที่อาจเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ






